วันจันทร์ที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

30 seconds th Mars

30 Seconds To Mars – Love Lust Faith + Dreams การจุติอีกครั้ง พุ่งทะยานสุดพลังไปสู่ขอบจักรวาลกับ30S2MARS




       เป็นรีวิวที่ผมใช้พลังงานมากที่สุดตั้งแต่เขียนมา กับการฟังวนซ้ำๆไม่รู้กี่สิบรอบเพื่อเก็บรายละเอียดและความรู้สึกทั้งหมดเพื่อที่จะเขียนรีวิวนี้ออกมา รวมถึงการหาข้อมูลเชิงโคตรลึก เท่าที่จะพอหาได้ทั้งหมด และมาเรียบเรียงเป็นสิ่งที่ท่านผู้อ่านกำลังจะได้อ่านต่อไปนี้ นี่คือรีวิวของวงดนตรีต่างประเทศที่ผู้เขียนชอบมากที่สุดในชีวิตวงหนึ่ง นั่นก็คือ Thirty Seconds To Mars หรือชื่อไทย(กำหนดเอง 555) สามสิบวิพี่จะลี้ไปดาวอังคาร ต่อไปผมจะเรียกย่อๆว่า 30S2MARS แล้วกัน (จริงๆเขาใช้ 30STM นะแต่ผมชอบแบบนี้มากกว่า)  ณ ตอนนี้สิ่งที่อยู่ในหัวมันเต็มไปหมดและเชื่อว่า คงดึงออกมาเขียนไม่หมดแน่ๆ แต่จะลองดูแล้วกัน เริ่มตั้งแต่ ก่อนอื่นบอกก่อนว่า ผมได้รีวิวถึงซิงเกิล Up in the air ไปรอบนึงแล้ว รอบนั้นก็จัดเต็มไปแล้วชนิดเพลงเดียวเขียนเป็นหน้า รอบนี้รีวิวนี้จะยาวกี่หน้าผมก็ยังไม่รู้ชะตากรรม เอาเป็นว่าลองอ่านกันไปเรื่อยๆแล้วกันครับ (พูดแบบ ไม่รับผิดชอบสุขภาพลูกตาคนอ่านเลยทีเดียวเพื่อเป็นการโต้แย้งคำกล่าวที่ว่าคนไทยอ่านหนังสือไม่เกินแปดบรรทัด ผมเลยจัดให้เลย)

ว่ากันด้วยเรื่องประวัติวงนี้คร่าวๆก่อนที่จะมาถึงงานที่เราจะรีวิวกันก่อน 30S2MARSเป็นวงอัลเทอเนทีฟจาก LA ประกอบด้วยสมาชิกหลักสามคนในปัจจุบันนั่นก็คือ Jared Leto ตาจาเร็ดที่เป็นแกนนำและเป็นทุกอย่างของ30Sนั่นเอง ผมจะเรียกแกว่าพี่เร็จ แล้วกัน ในตำแหน่งนักแต่ง นักร้อง และกีต้าร์ริธึ่มของวง  แกเป็นหน้าเป็นตาของวงอย่างที่หลายๆท่านก็คงทราบกันดีและจะขอกล่าวไว้อีกทีว่า นี่คือศิลปินตัวจริงคนนึงที่น่ายกย่อง โดยที่ใช้ฝีมือแบบ Artist แท้ๆ มากลบคำครหา หรือ การที่ผู้คนต่างๆจะมองข้ามฝีมือของเขา แต่ไปโฟกัสที่หน้าตาอันหล่อเหลาอย่างเดียว  เพราะอย่างที่หลายๆท่านทราบ พี่เร็จก็เป็นดารา Hollywood ด้วยและก็มีผลงานภาพยนตร์มาหลายเรื่อง ที่เด่นๆจริงๆก็คือเป็นพระเอก Urban Legend ที่มีคนร้ายใส่ชุดเอสกิโมถือขวานไล่ฆ่าคนในมหาลัยที่มีตำนานเรื่องเล่าของฆาตกรต่อเนื่องนั่นล่ะครับ คำครหาต่างๆเหล่านั้นถูกกลบไปชนิดที่เรียกว่าเงียบกริบ เงิบกันไปทั้งบาง ประมาณว่า เอ็งไม่มีทางประสบความสำเร็จหรอกไอ้ดาราหน้าหล่อ!(นี่คำด่าแล้วเหรอเนี่ย - -“) เมื่อผลงานของ 30S2MARSได้ออกสู่สายตาของแฟนเพลงและพิสูจน์ให้เห็นแบบชัดเจนว่า เขาคนนี้มีดีกว่าแค่หน้าตาหล่อๆเท่านั้น โดยที่ตัวตาเร็จเองก็ยินดีและhappyมากกว่าถ้าจะเรียกเขาเป็นศิลปินนักร้อง มากกว่านักแสดงหล่อๆก่อนที่จะตอกย้ำให้เห็นกันแบบชัดๆกับงานโคตรพ่อตำนานอย่าง A Beautiful Lie ในชุดถัดมา และต่อๆมาจนถึงชุด4ในปัจจุบันนั่นเอง

Urban Legend นางเอกน่ารักง่ะ ชอบ Alicia Witt ^3^

สมาชิกคนถัดมาก็คือ Shannon Leto พี่น้องจาเร็ดนี่เอง ในตำแหน่งกลอง และ เพอร์คัสชั่น รวมถึงควบคุมไลน์จังหวะเครื่องเคาะทั้งหลายในงานของ 30S เขาผู้นี้คือผู้กุมบังเหียนทั้งหมด รวมถึงเป็นตัวต้นคิดและรวมวงกับจาเร็ดกันสองคนในห้องนอน และเป็นจุดเริ่มต้นของ 30S2MARS ในปี 1998 ด้วย

โดยที่มีแมต วอชเตอร์ตามมาในส่วนของเบส คีย์บอร์ด ก่อนที่จะแกจะย้ายไปทำวงตัวเองหลังจากจบชุดที่2

ใครอยากเห็นหน้าสมาชิกเก่าคนนี้ อีตาพี่แมทจะอยู่ในMVงานจากชุด2 ABL หาดูได้ เพราะชุดถัดมาแกไปทำAngels&Airwavesเองแล้ว

TomoMiličević สมาชิกหนึ่งในสามของปัจจุบันในตำแหน่งกีต้าร์ลีดและคีย์บอร์ด และมือกีต้าร์เก่าอีกคนที่ออกไปแล้วนั่นก็คือ Solon Bixler นั่นเอง  สรุปแล้ว บุคคลที่เกี่ยวข้องกับ 30S ก็มี สามคนหลักในปัจจุบันก็คือ Jared ,Shannon และ Tomo นั่นเอง และ Ex-Member อย่าง Solon และ Matt

ส่วนที่มาของชื่อวง ซึ่งมันเกี่ยวพันกับแนวดนตรีและคอนเซปต์ของวงที่พวกเขาวางเอาไว้ นั่นก็คือ แรกสุดนั้นชื่อ Thirty Seconds To Mars นั้นได้มาจากชื่องานธิสิส ของโปรเฟสเซอร์ท่านหนึ่งจากฮาวาร์ดที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับเรื่องราวของวิวัฒนาการและการเจริญเติบโตของเทคโนโลยีของมนุษย์ในขีดอัตราแบบกราฟเอ็กซ์โปเนนเชียลที่เพิ่มพูนและพุ่งทะยานที่ละปรี๊ดๆๆๆเลยทีเดียว  ดังนั้นตัวเพลงส่วนใหญ่ของวงนี้ ก็จะมีธีมเนื้อหาและดนตรีที่ถูกครอบด้วยกรอบภาพของห้วงอวกาศที่กว้างไกลเหมือนกับชื่อวงของพวกเขานั่นเอง  ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่ทำให้งานของวงนี้แตกต่างจากวงอื่นด้วย เพราะผู้เขียนอยากจะบอกว่า งานของ 30S2MARS มันอลังการและให้ภาพของสิ่งอะไรที่ยิ่งใหญ่ และกว้างออกไปสู่อวกาศจริงๆ สเกลมันใหญ่กว่าการเป็นเพลงทั่วๆไปมาก แต่มันคือการโยงความกระจ้อยร่อยของชีวิตมนุษย์ ที่จะก้าวกระโจนไปสู่สิ่งที่ใหญ่กว่าตัวเองมากๆอย่างความไพศาลของSpaceและจักรวาลว่างเปล่าไกลโพ้นข้างนอกโลกนั่นเลย

         ผลงานที่ผ่านมาของ 30S2MARS นั่น ประกอบไปด้วยอัลบั้มแรกสุด 30 Seconds To Mars ในปี 2002 ที่เป็นเหมือนงานเปิดตัวแรกของพวกเขา กับแนวดนตรีที่ต้องบอกไปว่า ต่างจากปัจจุบันมาก แฟนๆเหนียวแน่นก็คงรู้ดีว่า งานแรกของพวกเขานั้นมีความเป็นร็อคอยู่ค่อนข้างสูงมาก ทั้งการใช้เครื่องดนตรีพื้นฐานอย่างกีต้าร์กลองเบส ด้วยริฟกีต้าร์และลูกลีดต่างๆที่มีความเป็นอเมริกันอัลเทอเนทีฟร็อคอยู่สูงจัดมากๆ ด้วยความดิบที่มาอย่างรุนแรงทำให้ได้แฟนเพลงชาวร็อคติดมาเป็นจำนวนนับไม่ถ้วน มีเสียง Synthesizer นิดหน่อยแต่ก็ยังไม่ได้เข้ามามากมายอะไร เน้นที่เสียงดิบๆของความเป็นร็อค และการแหกปากแบบชาวร็อคของ Jared ที่เรียกว่า เสียงของเขาไม่เป็นรองใครบนพื้นพิภพเลย บางคนอาจจะเอาไปเปรียบเทียบกับ Chester ของ Linkin Park แต่ผมว่าดีกันคนละแนวนะ Jared มีความนุ่มลึกอยู่ในตัวเนื้อเสียงกว่านิดหน่อย ในขณะที่เชสเตอร์จะได้ลูกแตกที่มันส์สะใจกว่า อันนี้แล้วแต่คนชอบ แต่ผู้เขียนก็ชอบทั้งสองแบบนั่นล่ะ เพลงในชุดแรกนี่ ไม่รู้จะแนะนำเพลงไหนเป็นพิเศษเพราะมัน”โหดสัส” ทุกเพลง กล่าวคือ เพลงมันแรงสะใจชาวร็อคมากๆ มาตรฐานใกล้ๆกันหมดทุกเพลงฟังอันไหนก็ได้ แต่ถ้าจะให้คัดจริงๆ ผมแนะนำ Edge of the Earth / Fallen / Capricorn ที่มีเสียงซินธ์เข้ามาแจมอยู่ด้วย รวมถึง 93 Million Miles ก็ใช้ได้เช่นกัน ชุดนี้ต้องไปฟังความดิบแบบต้นตำรับของ 30S2MARSก่อนเลยครับ จะได้เข้าใจถึงต้นแบบ ที่มาที่ไปของวงนี้ว่า พวกเขาวิวัฒนาการมาจากแนวเพลงแบบไหน และรากของแนวเพลงวงเป็นเช่นไร
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

ฟังซาวด์ดูดิครับ โคตรเจ๋งเลย เพลงยังแรงอยู่ด้วยสมัยนั้น


ชุดถัดมาคือ A Beautiful Lie ที่เป็นเหมือนคัมภีร์ไบเบิลของวงร็อคยุคใหม่ๆนี่เลย เพราะเหมือนกับว่า ทางวงได้เริ่มคลำทางและจับอะไรได้บางอย่างแล้ว  อัลบั้มนี้จึงออกมาโดยมีภาพของห้วงจักรวาลที่ชัดเจนมากขึ้น ถูกถ่ายทอดออกมาโดยธีมและสเกลของเพลงที่ฟังแล้วรู้สึกถึงความยิ่งใหญ่ได้อย่างรุนแรง อย่างซิงเกิลที่ทำให้ผมบูชามาจนถึงทุกวันนี้ และยังคงไม่ลืมนั่นก็คือ The Kill (Bury Me)กับMVลึกลับที่ทั้ง4คนได้ไปตะลุยโรงแรมดอปเปิลแกงเกอร์มา มีหลอนนิดหน่อย 
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

เลยกลายเป็นสาวกมาตั้งแต่ตอนนั้น ไม่น่าไปโดนเลย 555

อันนี้เพิ่มเติมให้ เป็นLiveของ The Kill ที่ช่วงยุคหลังๆจะมีแพทเทิร์นการเล่นแบบนี้ในทุกๆที่
ก็คือจาเร็ดจะออกมาเล่นเป็นเวอร์ชั่นอะคูสติกกับกีต้าร์เสียงเปล่าๆก่อน จากนั้นค่อยโหมใส่ดนตรีแบบจัดเต็มมา
แต่อันที่มาแปะนี่จะไม่ใช่แบบที่ผมอธิบายนี่ เป็นของปีก่อนๆนู่น ที่ชอบเพราะเฮียเร็จแกปีนเสาไฟขึ้นไปร้อง สูงมาก โคตรชอบ
ไม่ได้กลัวตายเล้ย สลิงก็ไม่มี 
แต่ด้วยความสัตย์จริง ขึ้นไปลอยร้องเพลงอยู่บนอากาศแบบนั้น มันยิ่งใหญ่เหมือนประหนึ่งแกเป็น"พระเจ้า"ของแฟนเพลงด้านล่างเลย
ขนลุกมากๆ
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

อีกเพลงหนึ่งที่เป็นไฮไลท์ชุดนี้ก็คือ From Yesterday ที่มากับMVกึ่งภาพยนตร์ที่ต้องบอกว่า อลังการงานสร้างมากกับเรื่องราวของราชสำนักจีนยุคโบราณที่มีพวกจิ๋นซีฮ่องเต้อะไรนั่นแหละ ลึกลับดี แถมตัวเพลงก็ทรงพลังซะจนไม่รู้จะบอกว่ายังไง เพลงนี้ก็เจ๋งมากจริงๆกับชุดนี้
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

และรวมถึง เพลงที่เป็นชื่ออัลบั้มอย่าง A Beautiful Lie ที่มีจังหวะที่ไม่ช้าไม่เร็วเกินไป แต่ยังคงแหกปากร้องแบบชาวร็อคได้อย่างสะใจ รวมถึงกรูฟและจังหวะของกลองแบบแน่นปั้ก พร้อมด้วยMVที่สะท้อนเรื่องราวของ Climate Change กับการกระทำของมนุษย์ยุคปัจจุบันที่เผาพวก Fossil Fuels ขึ้นไปสู่ชั้นบรรยากาศจนทำให้น้ำแข็งบริเวณขั้วโลกละลายลงอย่างรวดเร็ว เป็นเรื่องที่ EPIC มากๆเรื่องนึงสำหรับชีวิตศิลปินบนโลกนี้เลยที่MVจะไปถ่ายกันที่ขั้วโลกบริเวณ Arctic Circle แบบนั้น ได้ภาพที่อลังการโคตรพ่อโคตรแม่เลย แถมด้วยเรื่องราวของการรณรงค์เพื่อช่วยโลกตรงนี้  ผมว่าสเกลของ 30S2MARS มันยิ่งใหญ่จริงๆจนไม่รู้จะยกย่องยังไงในฐานะแฟนเพลงตัวเล็กๆคนนึงว่า วงนี้ทำอะไรที่ยิ่งใหญ่และไพศาลในระดับสเกลที่วงดนตรีทั่วๆไปไม่มีคอนเซปต์วงแบบนี้  หายากมากๆถ้าไม่มี”ความเชื่อ” ของวงที่เชื่อแบบจริงๆจังๆว่าจะต้องทำ พวกเขาจะไม่มีทางทำได้แน่นอน ซึ่งตรงนี้มันเกี่ยวพันกับอัลบั้มล่าสุดที่เราจะรีวิวด้วยว่า ความเชื่อมันส่งผลให้พวกเขาเกิลชุดใหม่ที่ยิ่งใหญ่มากๆได้อย่างไร (อีกเพลงที่ไม่น่าพลาดคือ Attack เพลงนี้ซาวด์สุดยอด มันสุดโคตร ห้ามพลาด ห้าดาว!!)
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

อันนี้ ABL ครับ  ชอบMVตัวนี้สุดๆอันนึงของ30วิเลย


ยังไม่ได้เข้าเรื่องอัลบั้ม LLFD เลย ไม่รู้คนอ่านจะหมดแรงอ่านกันรึยัง

ที่มา http://pantip.com/topic/30679827

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น